สิริวัฒน์ รื่นเพียน จากแม่ค้าตัวเล็กๆ สู่ผู้บริหารองค์กรใหญ่ SR Beseder

เมื่อมีฝัน ต้องฝันให้ไกลและไปให้ถึง จากแม่ค้าออนไลน์ตัวเล็กๆ ที่ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า เริ่มต้นฝันที่ตัวเอง ฝันให้ใหญ่ แม้พบปัญหาอุปสรรค์ ก็ไม่เคยท้อถอย เพราะกำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญ ทั้งที่มาจากครอบครัวคนจนที่ไม่เคยท้อแท้ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง จนมาถึงวันประกาศความสำเร็จ
ซึ่งจัดโดย สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศๆไทย (สว.นท.) เพ้นหาบุคคลแห่งคุณงามความดีของสังคม และประเทศชาติ ให้ได้รับคัดเลือกประกาศเกียรติคุณ และเข้ารับรางวัลแห่งเกียรติยศ ในปี 2567 นี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลผู้บริหารบุคคลดีเด่น คือ คุณเก่ง- สิริวัฒน์ รื่นเพียน


คุณเก่ง สิริวัฒน์ รื่นเพียน CEO บริษัท เอสอาร์ บีซีเดอร์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ได้เปิด บริษัท เอสอาร์ บีซีเดอร์ จำกัด มากว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เก่งก็เริ่มต้นจากการเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์มาก่อน เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แว่นตา น้ำหอม จนกระทั่งประสบปัญหาต่างๆในเรื่องแบรนด์สินค้า จึงได้เริ่มทำบริษัทของตัวเอง และผลิตสินค้าของเราเองภายใต้แบนด์ SR และสร้างแบรนด์สินค้าของเรา ให้เป็นที่รู้จักของตลาดคนไทยมากขึ้น ตั้งเป้าเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ตัวเก่งเอง ก็เป็นคนชอบคิด ชอบวางแผน ชอบความก้าวหน้า เริ่มต้นจากการดีไซน์โลโก้ SR ติดอยู่บนตัวสินค้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า นาฬิกา แว่นตา น้ำหอม เสื้อผ้า ซึ่งโลโก้ SR เราได้จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ เราเริ่มต้นทำแบรด์จากกระเป๋าก่อน ซึ่งลวดลายบนกระเป๋านี้ เราได้ลิขิตอย่างถูกต้อง จากอาจารย์


เศรษฐมันตร์ ผ้าลายอย่างซึ่งท่านเป็นอาจาย์ที่มีชื่อเสียง ท่านได้เขียนแบบลายไทยให้เรา และต้องบอกว่าลวดลายบนกระเป๋าแต่ละใบ ก็มีประวัติความเป็นมา ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของที่มาที่ได้ เช่น ภาพจิตกรรมจากพระอุโบสถ์ในวัดต่างๆ
ขณะเดียวกัน เรื่องแนวคิดในการออกแบบสินค้า เราได้มาประสบการณ์จากการขายสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายทางออนไลน์ จนทำให้เรารู้ว่า คนไทยชอบใช้กระเป๋าหลายใบ และใช้ในโอกาสที่ต่างกัน และเราก็ใช้ลวดลายไทยมาตัดต่อ และออกแบบให้กระเป๋ามีความสวยงามและทันสมัย ถือไปก็เด่นสะดุดตา และที่สำคัญ ผลิตออกมาแล้ว ก็ต้องใช้งานได้อย่างลงตัว เช่น กระเป๋าใบนี้ เหมาะสำหรับการพาไปทำงาน ส่วนใบนั้น สามารถถือไปงานเลี้ยงกลางคืนได้เป็นอย่างดี
ซึ่งกระเป๋า ของบริษัทเราก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระสะพาย กระเป๋าแฟชั่น กระเป๋าทำงาน กระเป๋าเดินทางตั้งแต่ขนาดใหญ่ ไปจนถึงกระเป๋าสตางค์ขนาดเล็กๆ ที่สะดวกเหมาะกับพกพาติดตัว ส่วนช่องทางการตลาด ก็ผ่านทางเพจ SR Beseder เว็บไซต์ www. SR Beseder.com และเว็บ www.kapaou.comรวมถึง การไลฟ์สดขายสินค้าของเก่งเอง ก็สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ก็ยังมีการแชร์ผ่านช่องทางของเพื่อน ซึ่งเป็นอินฟูเอนเซอร์ พันธมิตรของเรา เป็นอีกทางหนึ่งก็ยังช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าไปพร้อมๆกัน และได้ผลตอบรับจากลูกค้าส่วนใหญ่ดีมาก และที่สำคัญเป็นลูกค้าเราเอง ซึ่งเราพูดคุยด้วยความจริงใจ
และจากการได้พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ทำให้เรารู้ว่า ลูกค้าทุกคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน รวมถึง เรื่องโรงงาน เรื่องต้นทุน ถ้าเราผลิตจำนวนมาก เราก็ได้ราคาต้นทุนที่ถูก คนซื้อก็รู้สึกว่า ซื้อไปแล้วใช้ดี คุ้มค่ากับการที่ต้องจ่าย ถ้ามียอดขายมากขึ้น เราก็ได้กำไรมากขึ้น ส่วนเรื่องการออกแบบนั้น เราก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ให้เข้ากับแสความนิยมของลูกค้าเป็นหลัก
ทั้งนี้ ก่อนที่สินค้าจะนำออกขาย เราต้องทำสินค้าตัวอย่าง ออกมาลองตลาด และนำเสนอให้ลูกค้าก่อน จนเป็นที่ถูกใจแล้วจึงสั่งผลิตจำนวนมากๆ มาจำหน่ายอีกที เรียกได้ว่า มีการวิจัยตลาด และได้ทดลองใช้จริงก่อน รวมถึง สินค้าตัวอย่างที่จะออกขาย เก่งก็ต้องใช้เองอีกด้วย
ซึ่งสินค้าของเรานั้น มีหลากหลายและสามารถตอบสนองได้ความต้องการ ทุกกลุ่ม ทุกวัย นอกจากนี้ เรายังสามารถออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะลูกค้าคนนั้นก็ได้ เรียกว่า มีชิ้นเดียว ไม่ซ้ำใคร ที่สำคัญที่สุด เรายังเน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทยสมัยใหม่ ดูดี มีเอกลักษณ์
ขณะเดียวกัน ปีนี้ เราก็มาเริ่มรุกตลาดงานด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น สำหรับคนที่อยากมีบ้าน ด้วยการไลฟ์สด สร้างคอนเทนต์ เข้าถึงตัวลูกค้า เราก็ทำงาน ตั้งแต่เริ่มติดต่อ พูดคุย ถึงความต้องการของลูกค้า ว่าต้องการจะให้ทำอย่างไร บางคนต้องการซื้อ-ขาย เราก็มีหน้าเป็นผู้ประสานงานให้ นอกจากนี้ ยังต่อเนื่องไปถึง การรีโนเวท การปรับปรุง ต่อเติม รวมถึง การเสริมโปรโมชั่นดีๆ มีของแถมให้กับลูกค้า สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ได้งานดีมีคุณภาพและตรงปก
คุณเก่งกล่าวเสริมว่า นักธุรกิจทุกคนมีฝัน แต่จะสานฝันได้ ต้องมีการวางแผนก่อน และค่อยๆเริ่มต้นทีละน้อย จากธุรกิจเล็กๆ ก็สามารถกลายเป็นธุรกิจใหญ่ได้ เพราะธุรกิจ คือการวางแผน
และเมื่อพบเจอปัญหา เราจะต้องแก้ปัญหาไปให้ได้ ด้วยการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเราเคยเจอปัญหามาค่อยข้างมาก ก็พยายามมองที่ปัญหาเหล่านั้น และเราต้องก้าวต่อไปให้ได้ อย่าหยุดอยู่กับที่ และที่สำคัญ เราต้องพยายามสอบถามจากผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์จากหลายๆด้าน และนำกลับมาวิเคราะห์ปัญหา
การทำธุรกิจออนไลน์ในยุคปัจจุบัน คือ หนึ่ง เราต้องกล้า ที่จะแสดงออก ยิ่งเรากล้ามากเท่าไหร่ เราก็จะประสบความสำเร็จมากเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่กล้าออกหน้ากล้องหรือไม่กล้าไลฟ์สด ก็ให้เริ่มจากการพูดกับกระจกเงา เป็นการฝึกฝน ก่อนเปิดการไลฟ์สด เพราะโลกออนไลน์ยุคสมัยนี้ ต้องขายสินค้าผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก เป็นการเปิดโลกใหม่ ได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ โดยการเริ่มต้นจากการพูดคุยกัน จากนั้นค่อยขยับมาเป็นการขาย


สำหรับรางวัล ผู้บริหารบุคคลดีเด่น ที่ได้รับมา ก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ คือมาจากความเป็นตัวตนของเรา เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ทำงานเยอะมาก แต่ในละวันจะนอนน้อยมาก เพราะเราจะเป็นคนลุยงานเองทั้งหมด เช่น งานอสังหา ด้านการรีโนเวท ก็เริ่มตั้งแต่คุยงานเอง ประสานงานเอง แม้กระทั้งตู้ เตียง เราก็ยังต้องยกเอง รวมถึง ธุรกิจงานสินค้ากระเป๋า คือเราทำให้ทุกคนเห็นว่า เราเป็นคนทำเอง และก็ยังโพสต์ลงเฟสบุ้คด้วยตัวเอง เราทำจริง ไลฟ์สด ขายของจริง เพราะถ้างานที่เราทำเองได้ งานจะออกมาเรียบร้อย คือง่ายๆ ธุรกิจสมัยนี้ ถ้าใครอยากประสบความสำเร็จ เจ้าของต้องลงมือทำเองก่อน จนประสบความสำเร็จ นั่นคือ จุดเด่นของเรา
และถ้าเราเก่ง เราประสบความสำเร็จแล้ว เราถึงจ้างคนอื่นมาช่วยงานเรา เมื่อเกิดปัญหา เรารู้ เราสามารถแก้ปัญหา และคุมงานลูกน้องได้ นอกจากนี้ เรายังเป็นอินฟูเอนเซอร์ ที่สามารถสร้างงาน ขายสินค้าได้ เราก็สามารถสอนงานลูกน้องได้
รางวัลนี้ ก็ถือว่า เป็นกำลังใจให้เราได้เป็นอย่างดี นอกจากเรา เริ่มต้นทำงานคนเดียว ปัจจุบันเราได้พาครอบครัว พาคุณแม่ คุณแม่ เข้ามาร่วมทำงาน จนกลายเป็นความประทับใจ ถ้าวันนี้ คุณพ่อ คุณแม่เหนื่อย เราก็เหนื่อยไปพร้อมกัน เพราะเรามาจากครอบครัวคนจน แต่เราไม่ท้อ เราเริ่มขยันขันแข็งมาตั้งแต่เด็กๆ เราก็มีคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ จนมาถึงวัน ถือว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของความภูมิใจ ในการประสบความเร็จในหน้าที่การทำงานของเรา
งานที่เก่งทำ เช่น การสินค้าแบรด์ SR หรือการทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ อาจจะไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกัน แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น การเป็นอินฟูเอนเซอร์ การไลฟ์สดขายสินค้า ทำให้ทำงานสามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างไร่รอยต่อ เปรียบเสมือนเป็น “น้ำ” ที่เชื่อมทุกสิ่งทุกอย่างได้
“ทั้งหมดทั้งมวล นี้เพราะเก่ง ได้ศึกษาและเรียนรู้เรื่องจิตวิทยา ดังนั้น การรู้ว่ามนุษย์ทุกคนมีความต้องการที่ต่างกัน และที่สำคัญ เก่งก็ผ่านทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึกมาแล้วมากมาย และกว่าที่จะประสบความสำเร็จ ก็ต้องผ่านอุปสรรค์มาแล้วไม่ใช่น้อย จนมีคนยอมรับ ยิ่งเราเป็นสาวประเภทสอง ที่ไม่มีใครย่อมรับ เรายิ่งต้องสู้ และต่อสู้ มาด้วยเอง จนมายืนรับรางวัลผู้บริหารดีเด่นด้วยความภาคภูมิใจ” คุณเก่งกล่าวทิ้งท้าย