ปลูกผม โต 20% บีอีคิว กรุ๊ป รุกขยายพันธมิตร
ดันอะคาเดมี ขยายตลาดเอเชีย เป้า Q4/ 2567 โต 100%

BEQ GROUP จากธุรกิจความงาม สู่ศูนย์การแพทย์ปลูกผม สยายปีกสู่สถาบันส่งเสริมธุรกิจการแพทย์ปลูกผมแห่งแรกในไทย

นอกจากธุรกิจความงามด้านผิวพรรณซึ่งให้บริการครอบคลุม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพแล้ว ปัญหาด้านความงามเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะยังน่าจับตาไม่น้อย เนื่องจากตลาดปลูกผมมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 20% (ข้อมูลปี 2563-64) การเติบโตของอุตสาหกรรมการปลูกผมถาวรทั่วโลกในปี 2564 พบว่ามีมูลค่าตลาดสูงถึง 5,677.61 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าในปี 2570 จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 8,777.56 ล้านเหรียญสหรัฐ
​ในปัจจุบันปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ผมร่วง เป็นปัญหาที่แทบทุกคนต่างพบเจอ จึงทำให้ธุรกิจประเภทนี้เป็นที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างมากทั่วโลกและมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยคาดการณ์ว่าตลาดปลูกผมในปี 2032 มูลค่าตลาดจะสูงถึง 38.8 USD-Billion โดยจะมีการเติบโตขึ้นมากกว่า 21.8% (CAGR) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่มีมูลค่ากว่า 5.7 USD-Billion เลยทีเดียว


พรศักดิ์ เจียมสว่างพร ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บีอีคิว กรุ๊ป กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ไม่ใช่เฉพาะทั่วโลกที่อุตสาหกรรมด้านนี้ขยายตัว ในประเทศไทยเองก็มีการเติบโตขึ้นมากเช่นกัน จะเห็นได้ว่า แบรนด์ความงามเจ้าตลาดหลายๆ เจ้า ต่างขยายไลน์สินค้าเข้ามาครอบคลุมเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะ แบรนด์เล็กๆ เองก็ตื่นตัว อยากได้ส่วนแบ่งตลาด จึงออกผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายมากมาย


“มากไปกว่านั้นคลินิกความงามที่มีอยู่จำนวนมาก เริ่มขยายการให้บริการปลูกผมและรักษามากขึ้น รวมถึงมีคลินิกเปิดใหม่ที่ให้บริการเฉพาะการปลูกผมเกิดขึ้นกระจายทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย จากการสำรวจพบว่ามูลค่าตลาดปลูกผมในไทยสูงถึง 1,200 ล้านบาทในปีที่แล้ว และคาดการณ์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20%”
“นี่จึงเป็น Mission ที่ผมอยากทำให้สำเร็จ และการจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องฝ่าฟันค่อนข้างเยอะ เราเลยวาง Foundation เอาไว้ในแต่ละเฟสงาน และการที่ BEQ Group จับมือกับ MASTER จึงส่งเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการก้าวสู่การเป็น Hair Hub ของโลก ถ้าผมไปคนเดียวอาจต้องใช้เวลาอีก 8-10 ปี แต่เมื่อมีผู้นำที่แข็งแกร่งอย่าง MASTER จะช่วยให้เราสำเร็จได้ไวขึ้นอีกหลายเท่า”

 

​ย้อนกลับไป 2 ปีก่อน Pavicon Mediness Academy ถือกำเนิดขึ้นจากการสั่งสมประสบการณ์และอยู่ในอุตสาหกรรมปลูกผมโดยตรงมานานนับสิบปี ได้เห็นทั้ง Pain Point ของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ซึ่งช่วยจุดประกายไอเดียและผลักดันสถาบันให้ถ่ายทอดความรู้เชิงการแพทย์ รวมถึงสอนด้านการทำธุรกิจเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะให้เกิดขึ้น

“หากประเทศไทยต้องการเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทาง
การตลาดสูง ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องช่วยกัน เนื่องจากประเทศเรามีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีฝีมือมาก รวมถึงมีมาตรฐานสูงในส่วนของงานบริการ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีภาคส่วนใดเข้ามาสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ดังนั้น บีอีคิว กรุ๊ป จึงต้องการเป็นแกนนำในการผลักดันและพัฒนา เพื่อรองรับการขยายตลาด และบุกตลาดไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ในอนาคต


“จึงได้ก่อตั้ง Pavicon Mediness Academy สถาบันส่งเสริมธุรกิจทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ที่ให้บริการครอบคลุมทั้งในแง่อบรมพัฒนา และเพิ่มพูนองค์ความรู้ ทักษะด้านการแพทย์ปลูกผม สำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ เป็นที่ปรึกษาในการทำธุรกิจทั้งในแง่การขาย การตลาด งานบริการสำหรับผู้ประกอบการ และอบรม ส่งเสริมความรู้เพื่อให้เกิดอาชีพ หรือธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับเส้นผม เช่น สปา ซาลอน ร้านเสริมสวย ร้านสัก เป็นต้น”
ทั้งนี้เป้าหมายและวัตถุประสงค์สูงสุดของ BEQ Group คือ “ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการปลูกผม ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแห่งใหม่ของโลก​ (The World’s New Hair Restoration Hub) แต่ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นี้จำเป็นต้องใช้ทั้งทรัพยากรในด้านต่างๆ มากมาย โดยหากทำสิ่งนี้เพียงลำพังอาจต้องใช้เวลาถึง 8-10 ปี ตามแผนการที่วางไว้ แต่การมีพาร์ตเนอร์ที่มีวิสัยทัศน์ และทัศนคติในการทำงานแนวเดียวกันอย่าง MASTER ซึ่งถึงพร้อมทั้งทรัพยากรและประสบการณ์มาสนับสนุน ผมเชื่อว่าจะทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้น”

• ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ จากการเป็นผู้เล่นหลักในตลาดมาตลอด 10 ปี
กว่า 10 ปีที่ BEQ Clinic เริ่มต้นจากสถานบริการเสริมความงาม สู่ศูนย์การแพทย์ปลูกผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญลำดับต้นๆ และเป็นผู้เล่นหลักในตลาดด้านการปลูกผม ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของไทยที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาของคนไข้ ความพึงพอใจ และจริงใจในการรักษา รวมถึงมาตรฐานทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ด้วยการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีจากทุกภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอเมริกา ยุโรป หรือเอเชีย มาต่อยอดสู่เทคนิคการรักษา และการปลูกผมเฉพาะทาง ที่สร้างความประทับใจ เชื่อมั่นในผลลัพธ์ให้แก่คนไข้ทุกเพศ ทุกวัย ทั่วโลก
ในอดีตการเข้าสู่ธุรกิจการปลูกผมเป็นเรื่องที่ไกลตัว และทำได้ยาก แม้กระทั่งแพทย์เอง ซึ่งหากต้องการเพิ่มเติม
องค์ความรู้ด้านนี้ หรือต้องการเปิดคลินิกปลูกผมก็ทำได้ยากเช่นกัน เนื่องด้วยการเข้าถึงความรู้เฉพาะทางด้านการปลูกผมค่อนข้างยาก และกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อย ราคาสูง มาตรฐานการรักษาต่างๆ ไม่ได้ถูกพัฒนาเท่าทันประเทศอื่นเท่าที่ควร อันเนื่องจากเสมือนผูกขาด มีผู้ให้บริการอยู่ไม่กี่ที

• สยายปีกรุกสถาบันด้านเส้นผมและหนังศีรษะ เพิ่มพันธมิตร เสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรม
จากช่องว่างดังกล่าว พรศักดิ์ เจียมสว่างพร ร่วมกับ นายแพทย์เนติทัศน์ ชินอ่อน ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ และผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันส่งเสริมธุรกิจทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะ Pavicon Mediness Academy ได้ต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งด้านการวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ เทคนิคการรักษา เพื่อลดระยะเวลาในการเรียนรู้ โดยร่วมมือกับสถาบันชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ สร้างความเชื่อมั่น เกิดเป็นจุดแข็งของแบรนด์ผ่านตัวแปรสองประการ


หนึ่ง – ธุรกิจด้านนี้มีอนาคต เติบโตดีแน่นอน เพราะปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ผมร่วง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย
สอง – ทั้งแพทย์ บุลคลากรทางการแพทย์ รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคต ต้องการองค์ความรู้ ระบบ เทคนิควิธีการ รวมถึงกระบวนการทำงานต่างๆ ทั้งด้านการแพทย์ และการบริหารธุรกิจที่เป็นแบบ Ready-to-Serve ไม่ต้องเสียเวลา เสียเงิน หรือเสียชื่อเสียงในการลองผิดลองถูก ที่สำคัญคือสร้างรายได้ให้มากขึ้น
จากการเป็นผู้เล่นที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีพันธมิตรมาก่อน บุกตลาดจนเป็นจนเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ จึงทำให้ BEQ Hair Center ในปัจจุบันยึดตลาดพรีเมียมได้อย่างไม่ยากในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา สู่การสยายปีกเพื่อผลักดัน BEQ Group ภายใต้ Pavicon Mediness Academy สถาบันส่งเสริมธุรกิจทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะเฉพาะทางแห่งแรกในประเทศไทย โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้สร้างแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงนักธุรกิจด้านนี้ไปแล้วมากกว่าร้อยราย
คำถามสำคัญที่มักมีคนตั้งข้อสังเกตกับแนวคิด Academy ของ BEQ คือ ถ้าสอนให้คนอื่นรู้ สอนให้เก่ง แล้วจะไม่เป็นการสร้างคู่แข่งกับเราในอนาคนหรือ พรศักดิ์มองว่าด้วยเป้าหมายขององค์กรคือ ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจด้านการปลูกผม ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแห่งใหม่ของโลก ดังนั้น จึงต้องการสร้างมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นกับคนทั่วโลก อีกทั้งต้องการเครือข่ายพันธมิตร ทั้งแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และนักธุรกิจในประเทศเราเองมาร่วมกันผนึกกำลัง รองรับการให้บริการที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เพิ่มศักยภาพการเดินหน้าให้อุตสาหกรรมนี้ ส่งต่อจากประเทศไปสู่ระดับภูมิภาค
เมื่อมองดูมูลค่าตลาดรวมปีก่อนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 15% และตัวเลขการเพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการ หรือคลินิกที่ให้บริการปลูกผมมีมากขึ้นกว่าเดิมถึง 25% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยในส่วนของ BEQ Group มีการเติบโตโดยรวมขึ้นกว่า 20% ใน 3 กลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้ง BEQ Hair Center, Pavicon Mediness Academy และ BECosMed ซึ่งเป็นธุรกิจที่วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน อาทิ เครื่องมือแพทย์ปลูกผม เวชภัณฑ์ และอาหารเสริมสำหรับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งในสามกลุ่มธุรกิจในเครือครอบคลุม Eco System ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นั่นแปลว่ายิ่งมีผู้เล่นและผู้รู้มาเติมเต็มตลาดมากขึ้น ยิ่งทำให้ตลาดคึกคัก และให้บริการผู้คนที่ต้องการการแก้ปัญหาในจุดนี้ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นตามไปอีกหลายเท่าตัว
“จากเหตุผลเหล่านี้ สถาบันฯ ตั้งเป้าเป็นผู้นำ ศูนย์กลางการเรียนรู้ในการให้บริการด้านการปลูกผม ดูแลเส้นผม และหนังศีรษะครบวงจร ในเอเชียภายใน 3 ปี เสริมทัพด้วยการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง BEQ Group และผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ในการวิจัย และพัฒนาทั้งในด้านหลักสูตรการเรียนการสอน กระบวนการรักษา ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ อย่างเป็นรูปธรรม”
ล่าสุดปี 2023 BEQ Clinic จับมือ M&P กับ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ที่เห็นพ้องไปในทางเดียวกันทั้งทิศทางธุรกิจ ความร่วมมือ และโอกาสการเติบโตในทุกมิติ ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้ระยะของการดำเนินงานบริหารและการทำการตลาดต่อไป
“นอกจากนั้น การร่วมกันยังช่วยส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจในเครือ MASTER ทุกแห่ง ที่ต้องการขยายการให้บริการเฉพาะทางด้านนี้โดยจะมีการพัฒนาแพทย์ ทีมผู้ช่วยแพทย์ และทีมงานบริการด้านการปลูกผม ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ อาทิ Dr. Chen Hospital, Wind Hospital และ TYP Clinic เป็นต้น”

• Vision และ Mission จากการผลักศักยภาพเพื่อประเทศไทย
“ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ว่าสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ หากแต่ยังขาดจิกซอว์สำคัญๆ
หลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือความใจกว้าง การแบ่งปันประสบการณ์ องค์ความรู้ให้เพื่อนร่วมอาชีพซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ใหม่
“ครั้งหนึ่งก่อนที่ผมจะเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจปลูกผม ผมได้พบผู้ที่ทำธุรกิจนี้มาก่อน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการนี้สมัยนั้น ผมและคุณหมอเดินเข้าไปขอคำชี้แนะ และแนวทางในการประกอบอาชีพนี้ แต่กลับมีประโยคหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันในการทำธุรกิจของผมคือ ‘ถ้าผมสอนคุณ ก็เท่ากับว่าผมสร้างคู่แข่งให้คุณมาตัดราคาสิ’ และนั่นคือ Turning Point ของผม

“ผมจึงบอกกับตัวเองและทีมแพทย์ว่า ถ้าเราเจ๋ง เก่ง และแข็งแรงขึ้นเมื่อไร พวกเราจะเอาทุกอย่างที่เราได้เรียนรู้ ได้พัฒนามาแบ่งปันให้กับแพทย์ท่านอื่นๆ หรือผู้คนที่ต้องการทำธุรกิจนี้ให้หมด ไม่ต้องให้ลองผิดลองถูก ไม่ต้องให้ถูกกีดกันหรือแบ่งพรรคแบ่งพวกอีกต่อไป แล้วก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน โตไปพร้อมๆ กัน ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมนี้ไปด้วยกัน และอย่างที่แจ้งในตอนต้นว่า ผมต้องการทำให้ประเทศไทยเป็น The World’s New Hair Restoration Hub ให้ได้”

# # # # #