P&G จับมือ GC, Sansiri, Lotus และ Habitat Group สานต่อวิสัยทัศน์ความยั่งยืน
ภายใต้โครงการ ‘Upcycling Plastic House 2022 ร่วมสร้างบ้านจากวัสดุรีไซเคิล
สู่บ้านเพื่อสตรีในสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์
“P&G จับมือ GC, Sansiri, Lotus และ Habitat Group ร่วมกันบริหารจัดการพลาสติกที่ใช้แล้ว ต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มในโครงการ “Upcycling Plastic House 2022 เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม” ผ่านการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนนำขวดแชมพูพลาสติกและแชมพูถุงเติมที่ใช้แล้วกลับมารีไซเคิล ผ่าน ‘YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม’ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Upcycling House เตรียมส่งมอบให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ ภายใต้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมผู้บริหารจากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ พีแอนด์จีประเทศไทย ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย และ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ร่วมงาน พร้อมแชร์วิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กรเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม และการร่วมมือกันในการเพิ่มมูลค่าของพลาสติกใช้แล้วเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอย่างยั่งยืน โดยประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการฯ ด้วยการนำถุงเติมหรือขวดเปล่าแชมพูและครีมนวดผม มาหย่อนที่ตู้รับบริจาค ที่โลตัส 35 สาขา ได้ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 65 ถึง วันที่ 4 ม.ค. 66 คาดว่าจะช่วยลดปริมาณพลาสติกใช้แล้วได้กว่า 2,000- 4,000 กิโลกรัม ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ กว่า 18,000 –36,000 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน”
จาก ‘บริโภคและกำจัด’ สู่ ‘การบริโภคและรวบรวมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่’ ผ่าน YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม
ไม่ใช่แค่เป้าหมายของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นการจับมือร่วมกันของบริษัทชั้นนำในประเทศไทย อันได้แก่ P&G Thailand GC Sansiri Lotus และ มูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย (Habitat for Humanity) ที่ตั้งใจร่วมกันแก้ไขปัญหาพลาสติกใช้แล้ว ด้วยการคืนชีวิตพลาสติกที่ถูกทิ้งผ่านกระบวนการ Upcycling เพื่อสร้างเป็นบ้านที่อยู่อาศัย
(นายนิทิน ดาร์บารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซ้าย) และนายอาร์ปัน กุปตะ กรรมการผู้จัดการ (ขวา) พีแอนด์จีประเทศไทย)
นายนิทิน ดาร์บารี- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีแอนด์จีประเทศไทย กล่าวถึงการริเริ่มโครงการฯ ว่า
“ตามเป้าหมายของ P&G Ambition 2030 ที่มุ่งหวังสร้างคุณค่าให้กับบริษัทฯ ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน อันได้แก่ แบรนด์ สังคม และ พนักงาน ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Ambition) ในปี 2040 โดยจะครอบคลุมถึงการปล่อยมลพิษตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของเราทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน
P&G ประเทศไทยได้ดำเนินงานตามระบบ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” โดยมีรูปแบบธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆ
เพื่อเปลี่ยนสินค้าบรรจุหีบห่อสําหรับผู้บริโภคจาก ‘บริโภคและกําจัด’ เป็น ‘บริโภคและรวบรวม หรือเก็บมาใช้ใหม่’
โดยมีเป้าหมายคือ ลดพลาสติกปิโตรเลียมบริสุทธิ์ 50% ในปี 2030 คํานึงถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยวัสดุหมุนเวียน หรือ การรีไซเคิลที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังเช่น แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของเราที่ตั้งเป้าจะใช้พลาสติก
รีไซเคิลอย่างน้อย 4,000 ตันและมี PCR สูงถึง 25% ในขวดแชมพูและครีมนวดผม”
นายอาร์ปัน กุปตะ กรรมการผู้จัดการ พีแอนด์จีประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ Upcycling Plastic House ที่เราสร้างขึ้นนั้นมาจากแนวคิดที่ว่า เราต้องการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กว่าแก่ชุมชนและสังคม ซึ่งวันคนพิการสากล ที่ผ่านมา
เราบริจาค “Upcycling Plastic House” โดยร่วมมือกับภาครัฐและพันธมิตรในอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมา Upcycling Plastic House ได้ถูกใช้เป็นศูนย์พักคอย สำหรับผู้พิการ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด นอกจากนี้ P&G ยังนําร่อง โครงการ Upcycling Sachet เพื่ออัพไซเคิลซองบรรจุภัณฑ์ซองลามิเนต โดยเราได้ร่วมงานกับภาคีต่างๆ และอัพไซเคิลไปเป็นบานประตู ซึ่งในอดีตวัสดุเหล่านี้ไม่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ แต่ปัจจุบันเราได้เพิ่มมูลค่าลงไปในผลิตภัณฑ์ แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่เป็นก้าวสำคัญ ของการก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน”
โครงการ ‘Upcycling Plastic House 2022 เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม’ ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตร ได้แก่ โลตัส ที่รับหน้าที่ในการเป็นศูนย์กลางระหว่างผู้ประกอบการและชุมชน โดยเป็นจุดรับบริจาครวบรวมขวดแชมพูพลาสติกและแชมพูถุงเติม นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ – ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “โลตัส ดำเนินงานด้านความยั่งยืนภายใต้นโยบาย Vision 2030. Actions every day. ที่มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนจากการดำเนินงานในทุก ๆ วัน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ภายในปี ค.ศ. 2030 ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular economy เป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญ โดยโลตัส มีเป้าหมายในการลดปริมาณของเสียในการนําไปฝังกลบและลดขยะอาหารเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2030 และใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน โดยปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นของสินค้าแบรนด์ของโลตัสประเภทอาหารและสินค้าอุปโภคใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ 100%
นอกจากนี้ ภายใต้แผนงานด้านการรีไซเคิล โลตัส มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าและประชาชนสามารถแยกและรีไซเคิลขยะได้อย่างสะดวกผ่านสาขาของโลตัส โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินงานตั้งจุดรับขยะเพื่อนำไปรีไซเคิล โลตัส สามารถรวบรวมขวดพลาสติกและกระป๋องอลูมิเนียมได้แล้วเกือบ 3 ล้านขวด พลาสติกยืดกว่า 1.5 ล้านกิโลกรัม กล่องและลังกระดาษกว่า 157 ล้านกิโลกรัม เพื่อนำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด การร่วมมือกับ P&G และพันธมิตรจากองค์กรอื่น ๆ ในโครงการ Upcycling Plastic House 2022 เป็นอีกก้าวสำคัญในการต่อยอดการทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการสร้างระบบปิดของบรรจุภัณฑ์ เพื่อเก็บรวมรวมบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบและนำไปรีไซเคิล นอกจากมิติทางสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการนี้ยังสร้างประโยชน์ทางสังคมให้กลุ่มเปราะบาง ในการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกมา upcycle เป็นที่อยู่อาศัยอีกด้วย ทั้งนี้ โลตัสได้ร่วมสนับสนุนด้วยการจัดสรรพื้นที่พิเศษเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ โดยลูกค้าและประชาชนสามารถนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วมารีไซเคิลได้ที่จุดรับโลตัส 35 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2565 นอกจากนั้น สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบรนด์ใดก็ได้ครบ 299 บาท โลตัส จะมอบส่วนลดท้ายใบเสร็จมูลค่า 30 บาท เพื่อนำมาซื้อสินค้า เฮดแอนด์โชว์เดอร์ ถุงเติมรักษ์โลก ในการซื้อครั้งถัดไป โดยแลกซื้อได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 4 มกราคม 2566”
สำหรับการจัดเก็บและคัดแยกพลาสติกใช้แล้ว เพื่อแปรรูปเป็นวัสดุใหม่ในการสร้างที่อยู่อาศัย นางสาวนฤมล โชคดำรงสุข ผู้จัดการฝ่ายเศรษฐกิจหมุนเวียน บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) กล่าวว่า “ GC เชื่อว่าการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนต้องพิจารณาใน 3 มิติได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี (ESG) รวมถึงกรอบเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) “ในฐานะของบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับสากลที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต เราให้คำมั่นเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน กำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20% ภายในปี 2030 และพร้อมเดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2050
สำหรับบทบาทในฐานะพาร์ทเนอร์โครงการนี้ GC ได้ประสานความร่วมมือและทำงานร่วมกับพันธมิตร โดยใช้องค์ความรู้และนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์จากกระบวนการ Upcycling จากกล่องนมได้ออกมาเป็นแผ่นบอร์ด และแผ่นหลังคา (Eco Board and Eco Roof) และไม้เทียม (Wood Plastic Composite)
วัสดุใหม่สำหรับบ้านหลังนี้ คือ อิฐก่อสร้าง (Eco Bricks) ซึ่งผลิตจากพลาสติกใช้แล้วจากขวดขุ่น (HDPE Bottle) ผสมกับปูนซีเมนต์ มีคุณสมบัติความแข็งแรงการรับน้ำหนักและทนทานแข็งแรงดี โดยไม่ต่างจากอิฐหรือบล็อกปูถนนปกติที่ใช้กันอยู่ เทียบเท่ามาตรฐาน มอก. โดยผ่านการจัดเก็บและคัดแยกพลาสติกใช้แล้วจาก “YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม” เพื่อจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างครบวงจร ตั้งแต่วิธีการการคัดแยก การจัดเก็บ การขนส่ง ไปจนถึงการนำพลาสติกใช้แล้วไปรีไซเคิลอย่างครบวงจร หรือที่เรียกว่า End-to-End Waste Management เพื่อนำพลาสติกใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธีผ่านจุดรับพลาสติกใช้แล้ว (Drop Point) และโครงการต่างๆ ของ YOUเทิร์น ซึ่งจากความร่วมมือในโครงการนี้ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณพลาสติกใช้แล้วได้กว่า 2,000-4,000 กิโลกรัม ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ กว่า 18,000–36,000 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน”
การคืนชีวิตพลาสติกสู่การออกแบบและสร้างที่อยู่อาศัย ‘Upcycling Plastic House ’ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม
นางสาวชลีรัตน์ ต่อจรัส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงบทบาทของแสนสิริในฐานะผู้ออกแบบบ้าน Upcycling Plastic House และความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “แสนสิริ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero) โดยมีเจตนารมณ์ในการสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เราวางเป้าหมายสูงสุดในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050 โดยโครงการ ‘Upcycling Plastic House 2022 เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม’ สอดคล้องกับพันธกิจ “Sansiri Sustainability” ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนและใช้ทรัพยากรได้อย่างรู้คุณค่า พร้อมกับต่อยอดโครงการ “waste to WORTH: แยกขยะให้เกิดประโยชน์” เพื่อปลูกฝังเรื่องการจัดการขยะ ส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางให้เกิดประโยชน์
ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ แสนสิริได้นำความเชี่ยวชาญในด้านดีไซน์ มาออกแบบ Upcycling Plastic House ผ่านการคำนึงถึงการอยู่อาศัยและใช้งานจริง โดยนำหลักการออกแบบด้าน Universal Design ให้บ้านอยู่สบายปลอดภัยสำหรับเป็นศูนย์พักคอยสำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งให้ความสำคัญกับ Natural Ventilation ให้บ้านสามารถถ่ายเทอากาศได้สะดวก มีช่องทางลมเข้า-ลมออกได้ และเน้นความโปร่ง ไม่แออัด ช่วยลดการใช้พลังงาน มีการจัดวางและแบ่งสัดส่วนห้องให้เหมาะ รองรับการอยู่อาศัยสำหรับ 2 ท่าน โดยในการออกแบบครั้งนี้ เรายังมองไกลถึงการออกแบบดีไซน์แบบยืดหยุ่น ที่ทำให้สามารถต่อยอดในโครงการ Upcycling Plastic House ในทำเลอื่น ๆ หรือโครงการต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย”
นายอวิรุทธ์ โชตินันทเศรษฐ์ ประธานกรรมการ มูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย กล่าวถึง ความร่วมมือในโครงการ และการก่อสร้างว่า “Habitat for Humanity Thailand หรือ มูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับใช้คนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี เรามีวิสัยทัศน์ในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไทย ผ่านการร่วมซ่อมสร้างที่อยู่อาศัย และการร่วมพัฒนาชุมชนให้มีความยั่งยืน ตามหลักการของระดับนานาชาติเรื่อง SDGs
ในวันนี้ Habitat รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาคีในการพัฒนาวัสดุก่อสร้าง การปลูกฝัง เพื่อให้เกิดคุณค่าจากการพัฒนาขยะเหลือใช้ ในโครงการ Upcycling house เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม โดยทาง Habitat ได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการสร้างบ้านเพื่อสนับสนุนคนพิการ ภายใต้การดูแลของสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมูลนิธิเป็นอย่างยิ่ง เริ่มต้นจากเรื่องเล็กที่ไม่เล็ก คือการแยกขยะ และการนำขยะเหลือใช้เหล่านั้นเช่น Plastic Waste มาใช้ประโยชน์ในการเป็นวัสดุเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างน่าประทับใจ”
ทั้งนี้ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจากนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน และ นางกรวิณท์ วรสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมสงเคราะห์และนักศิลปะบำบัด รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ร่วมเปิดโครงการ
นายจุติ กล่าวว่า “กระทรวง พม. ต้องขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายทั้ง P&G Thailand GC Sansiri โลตัส และ Habitat ที่จัดทำโครงการ Upcycling Plastic House 2022 เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม ซึ่งในปีนี้สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลจัดหาผู้อยู่อาศัย จากความมุ่งมั่นตั้งใจของหน่วยงานชั้นนำในประเทศไทย ในการคืนชีวิตให้พลาสติกด้วยการนำกลับมาสร้างสิ่งใหม่นอกจากจะช่วยลดปัญหาพลาสติกในสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่กลายเป็นที่พักอาศัยที่มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสมกับการอยู่อาศัย โดยที่ผ่านมาบ้าน Upcycling Plastic House ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ต่อชุมชนและสังคม อาทิ การทำเป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้พิการที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในช่วงที่ผ่านมา เป็นต้น ซึ่งหวังว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการนำร่องให้กับการคัดแยกพลาสติก กลายเป็นแนวทางการบริโภคและรวบรวมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ สร้างสรรค์วัสดุใหม่ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนกลุ่มเปราะบางขยายผลไปยังสู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ”
ประชาชนที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบ้าน ‘Upcycling Plastic House 2022 เพื่อความยั่งยืนและเท่าเทียม’ สามารถนำถุงเติมและขวดเปล่าแชมพูและครีมนวดผม Head & Shoulder, Rejoice, Pantene, Herbal Essence มาหย่อนที่ตู้รับบริจาค ที่โลตัส 35 สาขา และร่วมต่อยอดโครงการ 35 ปี P&G ในประเทศไทย กับกิจกรรมสมนาคุณ ณ ห้างโลตัส มากกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 65 ถึง วันที่ 4 ม.ค. 66 ผู้บริโภคสามารถรับคูปองส่วนลด 30 บาท สำหรับผลิตภัณฑ์เฮดแอนด์โชว์เดอร์ ถุงเติม ขนาด 380 มล. ในการซื้อครั้งถัดไป ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 2 พย. 65 เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบรนด์ใดก็ได้ ครบ 299 บาท